วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ทุนลอบรุกป่าในช่องต้นน้ำท่าปอมคลองสองน้ำ กระบี่

แฉนายทุนลอบรุกป่าในช่องต้นน้ำท่าปอมคลองสองน้ำ กระบี่ ห่างจากสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ประมาณ 5 กม. จ่ายหัวละ 3-4 หมื่นบาท แลกกับการเข้าทำประโยชน์

วันที่ 22 ก.ค.53  ด.ต.ระวิ เครือแก้ว อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ พร้อมชาวบ้านตำบลเขาคราม ได้เข้าสำรวจบริเวณป่าสงวนแห่งชาติ ป่าในช่องตะวันตก ถนนสาย 3 รอยต่อระหว่าง ตำบลเขาคราม และตำบลเขาทอง อ.เมือง จ.กระบี่ ภายหลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้เข้าตรวจสอบและยึดพื้นที่คืน พร้อมปลูกต้นไม้ทดแทน เนื้อที่ 45-1-55 ไร่ ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา พร้อมปักป้ายประกาศห้ามมิให้มีการเข้าทำประโยชน์ใดๆในพื้นที่ หลังทราบว่ามีเจ้าของที่ทำการถอนต้นไม้ที่ปลูกทดแทนทิ้ง

จากการตรวจสอบในเบื้องตนพบว่าพื้นที่ที่มีการปลูกพันธุ์ไม้ฟื้นฟูสภาพป่า จำนวน 2,000 ต้น ที่ชาวบ้านปลูกไว้ ถูกถอนทิ้งไปเป็นจำนวนมาก ส่วนต้นไม้ใหญ่บริเวณใกล้เคียงก็มีรอยบากโคนต้นให้ยืนต้นตาย ห่างจากจุดดังกล่าวประมาณ 3 กิโลเมตร พบมีการปรับพื้นที่ปลูกต้นปาล์มน้ำมันอายุ ประมาณ 1-2 ปี ยางพาราอายุ ประมาณ 3 ปี และอีกแปลงปลูกต้นทุเรียน รวมเนื้อที่ถูกบุกรุกกว่า 400-500 ไร่ และยังมีการแผ้วถางป่าเป็นแนวและปักไม้รอปลูกปาล์มน้ำมันและยางพาราอีกหลายสิบแปลง รวมเนื้อที่นับพันไร่ ทั้งที่พื้นที่บริเวณดังกล่าวมีการปักป้ายประกาศห้ามเข้าทำประโยชน์

ด.ต.ระวิ กล่าวว่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าในช่องตะวันตก มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 1,000 กว่าไร่ เป็นป่าต้นน้ำที่สำคัญของท่าปอมคลองสองน้ำ ที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก แต่ถูกบุกรุกอย่างต่อเนื่อง รวมแล้วเกือบหนึ่งพันไร่ โดยเฉพาะป่าด้านในช่องรอยต่อตำบลเขาครามและตำบลเขาทอง ทั้งที่อยู่ใกล้กับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 ซึ่งแปลงที่มีการปรับพื้นที่ทำประโยชน์อยู่นั้น ก็อยู่ในเขตป่าสงวน แต่ที่สามารถทำได้เพราะว่า มีการจ่ายเงินเงินกัน ส่วนใครไม่มีเงินให้แบ่งพื้นที่ที่มีการทำประโยชน์และปลูกผลอาสินแล้วให้กับเจ้าหน้าที่

ด้านนายจงรัก ทรงรัตนพันธุ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าว มีการตรวจยึดพื้นที่คืนแล้ว 45 ไร่ เศษ และแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่สภ.เมืองกระบี่ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2553 หากมีการเข้าทำประโยชน์ก็สามารถเข้าดำเนินจับกุมได้ทันที ซึ่งหลังจากนี้จะประสานสำนักงานการทรัพยากรป่าไม้ที่12 สาขากระบี่ ซึ่งดูแลพื้นที่เข้าตรวจสอบต่อไป

ขอบคุณ...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป