วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555

พายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือน-สวนยางบ้านเขาครามเสียหายยับ

พายุฤดูร้อนพัดถล่มพื้นที่ ม.5 บ้านเขาขาว ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ บ้านเรือน สวนยางพาราเสียหายยับ อบต.ลงพื้นที่สำรวจเร่งให้การช่วยเหลือเยียวยา
           วันที่ 27 มี.ค.55 นายบัณฑูร ภูมิภมร นายก อบต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ นายก้าหรีม หลักแหล่ง กำนันตำบลเขาคราม พร้อมด้วย นายเดชา ภูมิภมร ผู้ใหญ่บ้าน และนายย่าหมาด หวันร่าหมาน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเขาขาว หมู่ที่ 5 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากกรณีเกิดเหตุฝนตกหนัก และเกิดพายุพัดบ้านเรือนประชาชน สวนยางพารา และสวนผลไม้ของชาวบ้านได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา
      
       นายย่าหมาด หวันร่าหมาน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 บ้านเขาขาว ต.เขาคราม อายุ 49 ปี เล่าว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.00 น.ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก และเกิดลมพายุพัดมาอย่างแรง พัดหอบเอาทุกอย่างปลิวว่อนทั้งบ้านเรือนของชาวบ้าน และต้นยางพารา หักโค่นลงมาจำนวนนับ 100 ต้น โดยพายุพัดอยู่นานประมาณ 10 นาที จึงสงบ
      
       ด้านนายบัณฑูร ภูมิภมร นายกอบต.เขาคราม กล่าวว่า จากกรณีทีี่เกิดพายุพัดกระำหน่ำบ้านเขาขาว ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 26 มี.ค.ต่อเนื่องถึงเมื่อคืนที่ผ่านมา จากการสำรวจเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่า มีบ้านเรือนเสียหายหนัก 2 หลัง และเสียหายเล็กน้อย กระเบื้องแตกหลุดจากหลังคา จำนวน 13 หลัง ซึ่งขณะนี้ทางช่างของ อบต.ได้เข้าสำรวจเพื่อช่วยเหลือตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง
           นายก อบต.เขาคราม กล่าวอีกว่า ส่วนพื้นที่การเกษตร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสวนยางพารานั้น จากการสำรวจในเบื้องต้น พบว่า มี ความเสียหายเป็นวงกว้างกระจัดกระจาย ซึ่งขณะนี้พบว่ามีต้นยางหักโค่นล้มประมาณ 500 ต้น โดยที่เสียหายหนักมีอยู่ 1 ราย เสียหายไปประมาณ 70-80% ของพื้นที่ มีต้นยางพาราหักโค่นกว่า 300 ต้น และขณะนี้ทางผู้เกี่ยวข้องได้ลงมาสำรวจแล้ว แต่แนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางนั้น ทาง อบต.ไม่สามารถให้การช่วยเหลือได้ คงต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เกษตรจังหวัด หรือกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางเข้ามาดูแลต่อไป
      
       อย่างไรก็ตาม เหตุพายุฤดูร้อนในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาได้เกิดขึ้นในจังหวัดกระบี่แล้วถึง 2 ครั้ง ซึ่งได้สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยครั้งแรกเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา พายุได้พัดถล่มในพื้นที่ ต.เขาดิน และ ต.พรุเตียว อ.เขาพนม ต้นยางพาราล้มนับพันต้น บ้านเรือนเสียหายจำนวนกว่า 20 หลัง และมาครั้งนี้ เกิดขึ้นที่ ต.เขาคราม ซึ่งก็สร้างความเสียหายเช่นกัน
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2555

เตรียมเปิดใช้อาคารผู้โดยสารสนามบินกระบี่ ก่อสร้าง 200 ล.รับ ทท.โต

ท่าอากาศยานกระบี่ เตรียมเปิดใช้อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ หลังใช้งบก่อสร้างกว่า 200 ล้าน รองรับการท่องเที่ยวโต
      
       นางอัมพวัน วรรณโก ผู้อำนวยการท่าอากาศยานจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ปัจจุบันท่าอากาศยานกระบี่ มีปริมาณจราจรเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยในปี 2554 มีจำนวนผู้โดยสาร ถึง 986,515 คน จากจำนวนเที่ยวบิน 6,672 เที่ยวบิน และคาดว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อให้ท่าอากาศยานกระบี่ สามารถรองรับการเจริญเติบโตในอนาคต ทางกรมการบินพลเรือน จึงได้ดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานกระบี่ ให้รองรับการขนส่งทางอากาศที่เพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวของ จังหวัดกระบี่ และพื้นที่ใกล้เคียง
      
       โดยการปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสารท่าอากาศยานกระบี่หลังเดิม พร้อมติดตั้งสะพานเทียบเครื่องบินจำนวน 1 ชุด วงเงิน 225 ล้านบาท ซึ่งเริ่มดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2552 และกำหนดเสร็จเดือนมิถุนายน 2554 อาคารดังกล่าวใช้สำหรับผู้โดยสารภายในประเทศ (อาคาร 2) สามารถรองรับผู้โดยสารรวมกันในชั่วโมงคับคั่งได้ จำนวน 500 คน
           นายอัมพวัน กล่าวต่อไปว่า จากการปรับปรุงอาคารดังกล่าว ทำให้ท่าอากาศยานกระบี่ มีอาคารที่พักผู้โดยสาร จำนวน 2 หลัง โดยอาคารหลังปัจจุบันสามารถรองรับผู้โดยสารได้จำนวน 1,000 คน/ชั่วโมง ใช้สำหรับสายการบินไทย สายการบินแอร์เอเชีย เส้นทาง (กัวลาลัมเปอร์-กระบี่-กัวลาลัมเปอร์) สายการบินไทเกอร์แอเวย์ เส้นทาง (สิงค์โปร์-กระบี่-สิงค์โปร์)และสายการบินเช่าเหมาลำจากต่างประเทศ เรียกว่า อาคาร 1
      
       ส่วนอาคาร 2 ใช้สำหรับสายการบินที่ทำการบินภายในประเทศ ได้แก่ สายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 500 คน ในเวลาเดียวกัน ซึ่งทั้งสองอาคารสามารถรองรับผู้โดยสารภายในประทศ และผู้โดยสารระหว่างประเทศได้รวม 1,500 คน/ชั่วโมง สำหรับอาคารผู้โดยสารที่ปรับปรุงใหม่ หรืออาคาร 2 จะเริ่มเปิดใช้ตั้งแต่วันที่ 1เมษายน นี้ คาดว่า จะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารได้เพิ่มมากขึ้น
      
       นอกจากนี้ ทางท่าอากาศยานกระบี่ ได้ทำการก่อสร้างต่อเติมลานจอดเครื่องบิน วงเงิน 184 ล้านบาท เริ่มสัญญาก่อสร้างตั้งแต่เดือนกันยายน 2552 แล้วเสร็จ เดือนมกราคม 2555 ที่ผ่านมา เป็นการขยายลานจอดเครื่องบินที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในปัจจุบันท่าอากาศยานกระบี่ มีลานจอดเครื่องบินที่สามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ โบอิ้ง 747 จำนวน 4 ลำ ในขณะเดียวกัน การก่อสร้างต่อเติมลานจอดเครื่องบินทำให้เพิ่มขีดความสามารถรองรับการจราจร ได้เพิ่มขึ้นเครื่องบินขนาดโบอิ้ง 747 ได้จำนวน ถึง 7 ลำ
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

กระทรวงวิทย์ฯ เปิดตัวเครื่องจักรผลิตปุ๋ยชีวภาพจากมวลชีวมวล

กระทรวงวิทย์ฯ เปิดตัวเครื่องจักรผลิตปุ๋ยชีวภาพจากชีวมวล เพื่อลดต้นทุนการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ หลังจากศูนย์วิทยบริการ ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกระบี่ ร่วมกับ บริษัท เกษตรสิทธี จำกัด พัฒนาจนประสบความสำเร็จ สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ 40 ตันต่อวัน เตรียมพัฒนาสู่มาตรฐานสากล เพื่อผลิตออกดจำหน่ายในเชิงพาณิชย์
      
       เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2555 ที่บริษั ทเกษตรสิทธี จำกัด ถ.อ่าวลึกปลายพระยา ต.อ่าวลึกเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ นางสาวเสาวณี มุสิแดง รองปลัดกระทรวงวิยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานในการแถลงข่าวความสำเร็จโครงการสร้างชุดเครื่องจักรสำหรับกระบวน การผลิตปุ๋ยชีวภาพจากชีวมวล โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ชิณวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาบริการมหาลัยเกษตรศาสตร์ รองอธิการบดีวิทยาเขตกำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จังหวัดกระบี่ กล่าวรายงาน
      
       นางสาวเสาวณี มุสิแดง รองปลัดกระทวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ประเทศไทยมีการนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศในมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี เป็นเหตุให้ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีและผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศในการซ่อมบำรุง การวิจัยและพัฒนาเครื่องจักรกลด้วยวิธีวิศวกรรมย้อนรอยจึงมีความจำเป็นอย่าง เร่งด่วน เพื่อทดแทนการนำเข้า และหากพัฒนาไปถึงขั้นที่สามารถผลิตออกจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้ ก็จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ผลิตในการลดต้นทุนอีก ด้วย
      
       ดังนั้นโครงการพัฒนาสร้างชุดเครื่องจักรสำหรับกระบวนการผลิตปุ๋ย ชีวภาพจากชีวมวล เป็นผลงานความสำเร็จของโครงการศึกษาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสร้างเครื่องจักร ในกระบวนการผลิต เพื่อลดการนำเข้าด้วยวิศวกรรมย้อนรอยและพัฒนาเทคโนโลยีของไทย ภายใต้การดำเนินงานของสำนักส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเตรียมที่ผลิตออกจำหน่ายในเชิงพาณิชย์
      
       สำหรับโครงการพัฒนาสร้างชุดเครื่องจักรสำหรับกระบวนการผลิต ปุ๋ยชีวภาพจากชีวมวล เป็นผลงานที่พัฒนาสร้างโดยศูนย์วิทยบริการมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกระบี่ ร่วมกับบริษัท เกษตรสิทธี จำกัด ใช้ระยะเวลาประมาณ 5 เดือน ชุดเครื่องจักรดังกล่าวประกอบด้วย 4 สถานี หรือเครื่องจักรย่อย ได้แก่ ชุดสถานีย่อยวัตถุดิบ สถานีผสมวัตถุดิบ สถานีอบแห้งปุ๋ย และสถานีคัดแยกขนาดปุ๋ย มีกำลังการผลิตขนาด 40 ตันต่อวัน สำหรับราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 15-25 ล้านบาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดและกำลังการผลิต
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

กมธ.ตำรวจลงพื้นที่กระบี่สอบก่อสร้างแฟลตตำรวจล่าช้า

กรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฏร ลงพื้นที่ จ. กระบี่ ตรวจสอบโครงการการสร้างแฟลตตำรวจ หลังพบไม่มีความคืบหน้า ด้านชูวิทย์ฯแฉเหลืออีก 5 เดือนก็จะหมดสัญญา และอยู่ในพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม เตรียมนำเสนอสภาผู้แทนและ ผบ.ตร.พิจารณา พร้อมตรวจสอบกรณีมีพนักงานสอบสวนถูกร้องเรียนว่าเข้าข้างผู้ต้องหาจ้างวาน ฆ่า
      
       ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ กรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฏร พร้อมคณะนำโดยนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ประธานกรรมาธิการฯ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ รองประธานกรรมาธิการคนที่ 1 นายอาคม เอ่งฉ้วน ที่ปรึกษากรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ นายสาคร เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ นายสุชีน เอ่งฉ้วน สส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ และที่ปรึกษากรรมาธิการ ได้ประชุมร่วมกับทางตำรวจกระบี่นำโดย พล.ต.ต.จำรูญ รื่นรมย์ ผบก.ภ.จว.กระบี่ พร้อมด้วย รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ และ ผกก. สวญ. ทุกสถานีเข้าร่วมประชุม
      
       ทั้งนี้ในที่ประชุมได้มีการติดตามการบริหารงานของตำรวจและการดำเนิน งานด้านต่างๆ และได้ให้ทางตำรวจชี้แจงกรณี การก่อสร้างแฟลตตำรวจ โดย พ.ต.อ.ทักษิณ โภชากรณ์ ผกก.สภ.เมืองกระบี่ ชี้แจงว่า ในจังหวัดกระบี่มีแฟลตตำรวจที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณมา 1 แห่ง จากงบไทยเข้มแข็ง วงเงิน 22 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างงวดที่ 5 จากทั้งหมด 11 งวด และจะหมดสัญญาในวันที่ 12 เมษายน 2555 ซึ่งคาดว่าจะเสร็จไม่ทันตามกำหนด และจากสภาพพื้นที่ก่อสร้าง ซึ่งทางตนไม่เคยรับทราบมาก่อน ทางโยธาธิการและผังเมืองเข้าตรวจสอบเมื่อปี 2554 หลังเกิดฝนตกหนักแผ่นดินถล่มในพื้นที่จังหวัดกระบี่และภาคใต้ พบว่าจุดก่อสร้างมีโอกาสดินสไลด์ได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสี่ยงแก่ข้าราชการตำรวจที่จะเข้าพัก
      
       พ.ต.อ.ทักษิณ ชี้แจงต่อไปว่า ส่วนกรณีการจัดหาสถานที่ก่อสร้าง สภ.อ่าวนาง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถจัดหาได้ เนื่องจากติดขัดปัญหาเดิมได้สถานที่ในเขตอุทยานแห่งชาติเป็นพื้นที่เสื่อม โทรม แต่เมื่อจะสร้างกลับมีเอกชนอ้างสิทธิครอบครอง เรื่องอยู่ในชั้นศาลกับทางป่าไม้ และอีกพื้นที่อยู่ระหว่างการดำเนินการขอใช้ แต่พื้นที่ในเมืองกระบี่กำลังเติบโตจึงยากที่เอกชนจะบริจาค เพราะมีราคาสูงมาก
      
       ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ รองประธานกรรมาธิการคนที่ 1 กล่าวว่า การเดินทางมาติดตามหลังการร้องเรียนในจังหวัดกระบี่นั้นมีด้วยกัน 3 เรื่อง โดยเรื่องแรกคือกรณีที่มีหญิงสาวคนหนึ่งไปร้องเรียนว่าถูกตำรวจข่มขู่และให้ การช่วยเหลือคู่กรณีคดีจ้างวานฆ่า ซึ่งขณะนี้แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนแต่ก็เริ่มที่จะมีความกระจ่างมาก ขึ้น โดยได้รับการชี้แจงจากทางตำรวจและผู้เสียหายมาแล้วบางส่วน แต่การสอบสวนยังไม่จบต้องไปสอบสวนเพิ่ม
      
       นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีของแฟลตตำรวจที่กระบี่ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างนั้นพบว่าสภาพงานไม่คืบหน้าเหลือเวลาแค่ 4-5 เดือนก็จะหมดสัญญา เพราะมีการขยายเพิ่ม แต่ก็ไม่เสร็จแน่นอน และที่ซ้ำร้ายแฟลตที่กำลังก่อสร้างก็อยู่ในจุดเสี่ยงที่พร้อมถล่มได้ เรื่องนี้คงต้องฝากไปยัง ผบ.ตร.ให้ช่วยเหลือข้าราชการตำรวจ เพราะยังไม่มีที่อยู่ แต่จะมาบริการประชาชนก็คงจะลำบาก เพราะต้องดูแลครอบครัว และอยากจะฝากถึงผู้ที่รับผิดชอบ อย่ามัวเมารักอยู่ ต้องมาดูแลในส่วนนี้ ซึ่งหลังจากนี้จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมสภา เพราะดูแล้ว แฟลตตำรวจและสถานีตำรวจจำนวน 398 แห่งงบประมาณ 5,800 ล้านบาททั่วประเทศ เสร็จไปแค่ 20-30 แห่ง เหลือเวลาไม่มากเสร็จไม่ทันแน่นอน
      
       นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่ตั้งสภ.อ่าวนาง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของกระบี่ ล่าสุดนี้ตนได้ไปพักและช่วงเช้าออกมาเดินดูพบฝรั่งคนหนึ่งที่ทำให้ตนอายมาก ฝรั่งชี้ไปที่ป้อมตำรวจเก่าๆ หลังหนึ่งแล้วบอกว่า เป็นสถานีตำรวจ ทั้งๆที่อ่าวนาง เทียบชั้นกับภูเก็ตแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการพัฒนาในด้านนี้ ซึ่งคงต้องฝากไปยังผู้เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

คนกระบี่รุมค้าน30บาทรักษาทุกโรค ชี้เป็นแค่โลโก้ไทยรักไทย

กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ จังหวัดกระบี่ รวมตัวต้านนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ชี้เป็นแค่โลโก้ อดีตพรรคการเมืองไทยรักไทย ทำประชาชนเสียประโยชน์
      
       เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 23 มีนาคม 2555 กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพจังหวัดกระบี่ จำนวน กว่า 50 คน นำโดยนายสหัส ทุมรัตน์ ประธานศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพจังหวัดกระบี่ ได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณลานประติมากรรมปูดำ ถ.อุตรกิจ เทศบาลเมืองกระบี่ พร้อมลงลายมือชื่อเพื่อแสดงพลังคัดค้านนโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรค หลังรัฐบาล ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย กลับมาทบทวนเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง โดยอ้างเหตุผลเพื่อลดปัญหาการขาดทุนของสถานพยาบาล ซึ่งทางกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ จังหวัดกระบี่ มองว่า นโยบายดังกล่าวเป็นแค่โลโก้พรรคการเมืองอดีตพรรคไทยรักไทยไม่ได้ช่วยเหลืออะไรประชาชน
      
       นายสหัส กล่าวว่า การไม่เก็บเงิน30 บาทต่อครั้ง ไม่ใช่เป็นสาเหตุที่ประชาชนจะไปโรงพยาบาลมากขึ้น จากข้อมูลพบว่าประชาชนไปโรงพยาบาลเพราะความเจ็บป่วยและความจำเป็น เนื่องมาจากการใช้บริการแต่ละครั้งประชาชนร่วมจ่ายอยู่แล้ว ทั้งทางตรงด้วยระบบภาษี และทางอ้อมด้วยค่าใช้จ่ายอื่นๆเช่น การขาดรายได้ การหยุดงาน การเดินทาง เป็นต้น และการที่รัฐบาลภายใต้การนำพรรคเพื่อไทย กลับมาใช้นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคเป็นเพียง แค่เครื่องหมายการค้าของอดีตพรรคเพื่อไทย
      
       นอกจากนี้การเก็บ 30 บาทต่อครั้ง ก็เหมือนกับการเก็บเบี้ยหัวแตกที่กระจายไปตามหน่วยบริการต่างๆ ไม่เพียงพอต่อการพัฒนาคุณภาพสถานบริการ เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลแห่งหนึ่ง มีผู้ใช้บริการเดือนละ 1,000 ครั้ง เมื่อหักผู้ได้รับการยกเว้นตามกฎหมายแล้ว สามารถเก็บได้ราว ร้อยละ 60 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ขึ้นทะเบียน คือเดือนละ 18,00บาท ซึ่งไม่เพียงพอในการใช้พัฒนาคุณภาพการรักษา กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพจึงออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลไม่ควรกลับมาใช้ นโยบาล30บาท
      
       นอกจากนี้ทางกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพได้จับตามองการสรรหาเลขาฯ สปสช. เพราะเกรงว่า รัฐบาลจะเอาคนของตัวเองเข้ามา ซึ่งถึงเวลานั้นก็จะออกมาต่อต้านต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2555

กระบี่กระชับสัมพันธ์เมืองพี่น้องกับมณฑลเจียงซู เร่งโปรโมตให้คนจีนเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น

จังหวัดกระบี่ ต้อนรับคณะจีนจากมณฑลเจียงซู หารือและยกระดับการเชื่อมสัมพันธไมตรีบ้านพี่เมืองน้องให้กระชับมากยิ่งขึ้น พร้อมฝากโปรโมตการท่องเที่ยวของกระบี่ให้เป็นที่รู้จักของคนจีนมากขึ้น
      
       วันที่ 22 มี.ค.55 ที่ห้องประชุมบันไทสมอ เทศบาลเมืองกระบี่ นายอุเทน ตัณตรีบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนจังหวัดกระบี่ ให้การต้อนรับนายจู หลง เชิง (Mr.Zhu Longsheng) รองประธานสภาประชาชนและคณะจากมณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อหารือและยกระดับการเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างจังหวัดกระบี่ ประเทศไทย และมณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน ให้มีความแน่นแฟ้นเปรียบเสมือนเป็นบ้านพี่เมืองน้อง
      
       นายอุเทน ตัณตรีบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตามที่คณะผู้แทนจังหวัดกระบี่ ได้เดินทางไปร่วมงานเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี การดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างมณฑลเจียงซูกับต่างประเทศ ณ มณฑลเจียงซู เมื่อวันที่ 16-18 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา และในโอกาสดังกล่าว ทางจังหวัดกระบี่ ได้เชิญผู้แทนมณฑลเจียงซู มาเยี่ยมเยียนจังหวัดกระบี่ เมื่อเดือนธันวาคม 2552 และได้ร่วมกันจัดทำบันทึกช่วยจำ (MOU) เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์และมิตรภาพในการเป็นบ้านพี่เมืองน้องให้ยั่งยืน ยาวนาน ภายใต้กรอบแนวนโยบายของแต่ละประเทศ
      
       โดยมีหลักการ 3 ประการ คือ 1.เพิ่มศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวให้เกิดความร่วมมือ ส่งเสริมสนับสนุน เกื้อกูล และพัฒนาธุรกิจบนพื้นฐานของความมั่นคง ยั่งยืนทั้งสองฝ่าย 2.อนุรักษ์ส่งเสริม พัฒนา สืบสานศิลปวัฒนธรรมประเพณีของทั้งสองฝ่ายให้เกิดการเรียนรู้ความเข้าใจ ระหว่างกันและเห็นคุณค่าในมรดกที่ได้รับการสั่งสมมาเป็นระยะเวลายาวนานให้ เกิดความยั่งยืน 3.ส่งเสริมเรียนรู้อนุรักษ์คุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกัน ให้เกิดประโยชน์สูงสุดบนพื้นฐานของความยั่งยืนเพื่อป้องกันผลกระทบด้านมล ภาวะ
      
       รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า หลังจากที่ได้ต้อนรับคณะ ก็ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนโดยประเด็นหลักๆ ได้แก่ การพัฒนาเยาวชนทั้งสองประเทศ โดยจะมีการแลกเปลี่ยนนักเรียนระหว่างกัน และจะมีการขอให้ทางประเทศจีนส่งครูเข้ามาสอนนักเรียนตั้งแต่ช่วงชั้นประถม เพื่อให้นักเรียนของจังหวัดกระบี่มีความชำนาญด้านภาษาจีน ซึ่งเป็นภาษาที่ชาวกระบี่ควรจะศึกษาไว้ เพราะต่อไปในอนาคตเชื่อว่านักท่องเที่ยวจากประเทศจีนจะเดินทางเข้ามาท่อง เที่ยวจังหวัดกระบี่เพิ่มมากขึ้น และทางประเทศจีนยังได้ขอให้จังหวัดกระบี่ เข้าไปทำการโปรโมทจังหวัดกระบี่ในประเทศจีนให้มากขึ้นด้วย เนื่องจากชาวจีนจำนวนน้อยมากที่รู้จักจังหวัดกระบี่
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

สธ.กระบี่จัดแสดงนวัตกรรมภูมิปัญญาการแพทย์แผนโบราณอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด กระบี่ จัดแสดงนวัตกรรมภูมิปัญญาการแพทย์แผนโบราณ และอาหารเพื่อสุขภาพของชุมชนในท้องถิ่น ที่ผ่านการคัดเลือกทั้ง 8 อำเภอ เพื่ออนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น และให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สามารถทำงานร่วมกับชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
      
       วันที่ 21 มี.ค.55 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ร่วมกับสำนักประสานการพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและสำนักงานกองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ จัดโครงการสนับสนุนการสร้างความเข้มแข็งทางสุขภาพโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จังหวัดกระบี่ โดยคัดนวัตกรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับการแพทย์ แผนไทย และอาหารเพื่อสุขภาพ ของชุมชุนแต่ละพื้นที่ ทั้ง 8 อำเภอ เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ให้มีความสามารถร่วมกับชุมชนพัฒนาสุขภาพของประชาชน โดยอาศัยแนวคิดหมอประจำครอบครัว (Family medicine) และใช้กระบวนการพัฒนา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในพื้นที่เป็นฐาน รวมทั้งการส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการทำนวัตกรรมสุขภาพชุมชน
      
       นางสาวอมิตตา จันทร์ชอุ่ม นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ หัวหน้างานคุณภาพบริการปฐมภูมิ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว เป็นการนำพื้นที่ต้นแบบดำเนินการตามโครงการระดับ อำเภอๆ ละ 1 ตำบล รวม 8 ตำบล ซึ่งได้นำเสนอนวัตกรรมของแต่ละชุมชนที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้ว มาทำการจัดแสดงเป็นนิทรรศการและจัดการประกวดเพื่อคัดเลือกผลงานจากการโหวด ของประชาชนที่มาร่วมงาน ประกอบด้วย พื้นที่หมู่บ้านสีเขียวย้อนวิถีไทยดั้งเดิม รพ.สต.บ้านทุ่ง นวัตกรรมต้นแบบ จากสภาพปัญหาผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยอื่นๆ และผู้ถูกทอดทิ้ง
      
       รพ.สต.บ้านนาเหนือ นวัตกรรมต้นแบบ เก้าบัลลังก์คนดีร่วมใจ ดูแลสุขภาพประชาชนแบบองค์รวม รพ.สต.บ้านเขาต่อ นวัตกรรมต้นแบบ บ้านนี้มีรักษ์ ปลูกผักสวนครัว เริ่มจากปัญหาสารเคมีตกค้างในผักที่ใช้บริโภค รพ.สต.บ้านคลองเสียด การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงโรคอ้วน โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างกลุ่มเสี่ยงและคณะกรรมการ รพ.สต.รพ.สต.บ้านกอตง นวัตกรรมต้นแบบ เพื่อนช่วยเพื่อน เตือนภัยเบาหวาน โดยจัดกิจกรรมในการดูแลผู้ป่วยเบาหวานอย่างต่อเนื่อง
      
       รพ.สต.เฉลิมพระเกียรติ์ฯ นวัตกรรมต้นแบบ มื้อนี้หุ่นดี หุ่นนี้ช่วยเสริมพลัง (ลดหุ่นหรือลงพุง) รพ.สต.บ้านเขาไว้ข้าว และนวัตกรรมต้นแบบ ชวนน้องเข้ามัสยิด จากสภาพการยาเสพติดและผู้ที่มีปัญหาด้านจิตเวชจากการเสพยาเสพติดในกลุ่มลูก หลาน เยาวชนในชุมชน รพ.สต.บ้านร่าปู
      
       และหลังจากนี้ มีการประชาสัมพันธ์เจ้าหน้าที่หน่วยงานและผู้ร่วมชมนิทรรศการร่วมโหวตสติ กเกอร์ LIKE ผลงานที่สื่อให้เห็นรูปแบบการมีส่วนร่วมในการสร้างสุขภาพโดยความร่วมมือ ระหว่างชุมชน และ รพ.สต.เพื่อคัดเลือกนวัตกรรมที่ สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันและแลกเปลี่ยนข้อกับทางเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นอบย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้แนวคิดหมอประจำครอบครัว และสามารถทำงานร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลได้เป็นอย่างดี
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

โจ๋กระบี่สวมรอยพระธุดงค์ใช้สำนักสงฆ์ร้างมั่วสุมเสพยา

เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจสอบสำนักสงฆ์ร้าง บริเวณถ้ำเขาทะลุ ต.ไสไทย หลังชาวบ้านร้องเรียนว่า เป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด พบหม้อต้มน้ำกระท่อมและขวดยาแก้ไอจำนวนมาก เผยเคยมีพระธุดงค์มาอาศัยอยู่แต่ได้ย้ายออกไปเมื่อปีที่ผ่านมา กลุ่มวัยรุ่นจึงเข้าสวมรอยใช้เป็นแหล่งมั่วสุม
      
       เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 20 มี.ค.55 นายโสภณ สุวรรณคะราช ปลัดอำเภอเมืองกระบี่ นำเจ้าหน้าที่กองร้อยอาสมัครรักษาดินแดน (อส.จ.กบ) เข้าตรวจสอบบริเวณสำนักสงฆ์ถ้ำเขาทะลุ ม.2 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามามั่วสุมยาเสพติดบ่อยครั้ง เมื่อไปถึงพบบริเวณดังกล่าว เป็นเพิงภูเขาและภายในมีถ้ำสามารถเดินทะลุไปอีกด้านหนึ่ง โดยภายในเป็นสถานที่พำนักของพระธุดงค์รูปหนึ่งซึ่งชาวบ้านในพื้นที่เลื่อมใส ศรัทธามาก แต่ได้ย้ายออกไปได้เกือบปีแล้ว เนื่องจากเมื่อปีที่ผ่านมาเกิดเหตุหินถล่มปิดปากถ้ำ แต่พระรูปดังกล่าวรอดไปได้หวุดหวิด
      
       เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณภายในถ้ำ พบห้องน้ำมีจีวรกองอยู่หลายผืน มีพระพุทธรูป จำนวนหลายองค์ กองกระจัดกระจาย ใกล้กันพบหม้อต้มน้ำกระท่อม และขวดยาแก้ไอ จำนวน 10 ขวด ส่วนกลุ่มวัยรุ่นที่มามั่วสุมคาดว่าหลบหนีไปก่อนแล้ว เจ้าหน้าที่จึงเก็บจีวรและวัตถุมงคลนำไปมอบให้วัด และเก็บอุปกรณ์ต้มน้ำกระท่อมไว้เป็นหลักฐาน
      
       เบื้องต้นคาดว่าหลังจากที่พระรูปดังกล่าว ย้ายออกไป ก็กลายเป็นแหล่งมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น ใช้เป็นสถานที่ต้มน้ำกระท่อมสูตรสี่คูณร้อย ทำให้ชาวบ้านเกิดความเอือมระอา จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

กระบี่ปูพรมตัดต้นกระท่อมเผาทิ้ง หลังพบมีปลูกตามบ้านเรือนอื้อ

เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกระบี่ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ อส.เข้าตรวจค้นแหล่งปลูกพืชกระท่อมในพื้นที่ ม.7 ต.ไสไทย พบมีการปลูกต้นกระท่อมตามบ้านเรือนหลายราย เจ้าหน้าที่ตัดโค่นทำลายเพื่อสกัดสารตั้งต้นยาเสพติด
      
       เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 20 มี.ค.55 นายศรัทธา ทองคำ ปลัดอาวุโส อำเภอเมือง จ.กระบี่ นายโสภณ สุวรรณคะราช ปลัดอำเภอเมืองกระบี่ ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 และสมาชิก อบต.ไสไทย นำกำลัง เจ้าหน้าที่กองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดน จ.กระบี่ จำนวนกว่า 10 นาย พร้อมเครื่องมือ เข้าตัดต้นกระท่อมในพื้นที่ ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ตามประกาศจังหวัดกระบี่
      
       หลังสืบทราบว่า มีการปลูกต้นกระท่อมในหลายพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องเลื่อยยนต์ และขวานตัดโค่นทำลายจำนวน 5 จุด ยึดต้นกระท่อมจำนวน 6 ต้น ขนาดสูงประมาณ 3-5 เมตร เจ้าหน้าที่นำต้นกระท่อมไปรวมและเผาทำลาย เพื่อตัดวงจรสารตั้งต้นยาเสพติด
             นายศรัทธา กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของยาเสพติดในจังหวัดกระบี่ ในปัจจุบัน พบว่าคดีจับกุมพืชกระท่อม ยาเสพติดประเภท 5 มีจำนวนคดีเพิ่มสูงมากขึ้น และจากการสำรวจคัดกรองผู้ติดยาในสถานศึกษา พบว่า มีนักเรียนส่วนหนึ่งมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ชนิดสี่คูณร้อย มีส่วนผสมของพืชกระท่อมและยาแก้ไอ ส่งผลให้เกิดกลุ่มเสี่ยง มีโอกาสที่จะใช้ยาเสพติดเพิ่มมากขึ้น และพบว่ามีพืชกระท่อมกระจายอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก ทางจังหวัดจึงได้มีการประกาศเตือนขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ ให้มีการค้นหาและตัดทำลายในทุกพื้นที่ เพื่อตัดวงจรของยาเสพติดต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

2 รมต.แย่งงบก้อนโตร้อยล้านที่กระบี่ไม่ลงตัวขอคุยนอกรอบ

รองผู้ว่าฯ กระบี่ เผย มี 4 โครงการเร่งด่วนที่ต้องนำเสนอ ครม.ด้าน 2 รมต.แย่งซีนเสนองบประมาณ 100 ล้าน ที่นายกรัฐมนตรีอนุมัติ สร้างตึกอุบัติเหตุโรงพยาบาลกระบี่ หรือขุดลอกร่องน้ำท่าเทียบแพขนานยนต์ ข้ามฟากเกาะลันตา ไม่ลงตัว ต้องขอคุยนอกรอบ
      
       เวลา 10.00 น.วันที่ 19 มี.ค.55 นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เข้าประชุมรับฟังการบรรยายสรุปโครงการสำคัญของจังหวัดกระบี่ ซึ่งภาครัฐและเอกชนจังหวัดกระบี่ เสนอขอรับการสนับสนุนจากคณะรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ณ จังหวัดภูเก็ต ในวันพรุ่งนี้ (20 มี.ค.) โดยมีนายอุเทน ตัณตรีบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวรายงาน
      
       นายอุเทน ตัณตรีบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับโครงการสำคัญที่ทางจังหวัดกระบี่ จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ณ จังหวัดภูเก็ต มีจำนวนทั้งสิ้น 10 โครงการ ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างตึกอุบัติเหตุโรงพยาบาลกระบี่, โครงการสำรวจออกแบบสร้างถนนเลี่ยงเมืองกระบี่, โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยฝั่งอันดามัน, โครงการก่อสร้างถนนสาย อ.เขาพนม-อ.ทุ่งใหญ่, โครงการสร้างอาคารวินิจฉัยและรักษาพยาบาลโรงพยาบาลกระบี่, โครงการก่อสร้างโรงบำบัดขยะ, โครงการก่อสร้างระบบประปาขุมเหมือง, โครงการปรับปรุงพัฒนาแหล่งน้ำและปรับปรุงภูมิทัศน์หาดพระแอะ อ.เกาะลันตา, โครงการติดตั้งระบบวงจรปิด, โครงการปรับปรุงขยายถนนเส้นทางลัด สายพังงา-กระบี่ -นครศรีธรรมราช,
      
       รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการสำคัญ 4 ลำดับแรกที่จังหวัดกระบี่ภาคราชการ ภาคเอกชน และราษฎรจังหวัดกระบี่ มีความต้องการอย่างเร่งด่วน คือ โครงการก่อสร้างตึกอุบัติเหตุโรงพยาบาลกระบี่ งบประมาณ 99 ล้านบาทเศษ, โครงการสำรวจออกแบบสร้างถนนเลี่ยงเมืองกระบี่ งบประมาณ 20 ล้านบาทเศษ และโครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยอันดามัน งบประมาณ 20 ล้านบาท และโครงการขุดลอกร่องน้ำบริเวณท่าเทียบแพขนานยนต์ข้ามฟากเกาะลันตา รวมงบประมาณ 3,439,150,970 บาท
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทั้ง 4 รมต.ได้ฟังบรรยายสรุปและความต้องการของภาครัฐและภาคเอกชนจังหวัดกระบี่ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกล่าวบรรยายสรุป และภาคเอกชน ประกอบด้วย หอการค้าจังหวัดกระบี่ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ เพื่อขอให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องรับหลักการและนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อสนับ สนุนงบประมาณโครงการสำคัญ 4 ลำดับแรก โดย 3 โครงการ ที่รัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการ และให้ทันที ได้แก่ โครงการก่อสร้างตึกอุบัติเหตุโรงพยาบาลกระบี่ โครงการสำรวจออกแบบสร้างถนนเลี่ยงเมืองกระบี่ และโครงการขุดลอกร่องน้ำบริเวณท่าเทียบแพขนานยนต์ข้ามฟากเกาะลันตา ส่วนโครงการก่อสร้างมหาวิทยาลัยอันดามัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังไม่รับในหลักการ
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่ นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงงบประมาณ 100 ล้านบาท ที่นายกรัฐมนตรี อนุมัติให้แต่ละจังหวัด 100 ล้านบาท โดยให้เอางบประมาณจำนวนทั้งหมดมาสร้างตึกอุบัติเหตุให้โรงพยาบาลกระบี่ ซึ่งก็จะสามารถก่อสร้างได้ทันที ก็ถูกทาง นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย สวนขึ้นมาทันทีว่า ไม่ได้หากเอาเงินจำนวน 100 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลกระบี่ ก็จะไม่มีเงินงบประมาณมาทำการขุดลอกร่องน้ำท่าเทียบแพขนานยนต์ข้ามฟากเกาะ ลันตา ซึ่งตนได้คุยกับสภาพัฒนาไว้แล้ว แต่ในที่สุดทั้ง 2 รมต.ก็ขอคุยนอกรอบ
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์