กระทรวงพลังงาน ร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พัฒนารูปแบบการผลิตพลังงานจากพืชแบบเดิมเป็นระบบแห้งหีบรวม
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ จ.กระบี่ว่า สถานการณ์ราคาน้ำมัน ในช่วงนี้มีความผันผวนมากและมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ประชาชนให้ความสนใจพลังงานทดแทน โดนเฉพาะพลังงานจากเชื้อเพลิงชีวภาพเพิ่มมากขึ้น โดยปี 2552 มีการใช้เอทานอลในแก๊สโซฮอล 1.24 ล้านลิตร/วัน และในปีนี้จะมีการส่งเสริมการพัฒนาพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันแพง โดยตั้งเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ เพื่อทดแทนการนำเข้าน้ำมัน คือผลิตเอทานอล 3 ล้านลิตร/วัน และไบโอดีเซล 3 ล้านลิตร/วัน ซึ่งขณะนี้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ศึกษาความเป็นไปได้ของการปลูกพืชน้ำมันและพัฒนารูปแบบการผลิตพลังงานจากพืชแบบครบวงจร โดยทำการศึกษาวิจัยออกแบบพัฒนาระบบสกัดน้ำมันปาล์มให้มีประสิทธิภาพสูง เพื่อใช้เป็นเครื่องจักรต้นแบบสำหรับการใช้งานของการผลิตปาล์มน้ำมันนอกพื้นที่ ตลอดจนเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากปาล์มน้ำมันที่จะเพิ่มขึ้น ดร.พรชัย เหลืองอาภาพงษ์ หัวหน้าโครงการการพัฒนารูปแบบการผลิตพลังงานจากพืชแบบครบวงจร กล่าวว่า เครื่องสกัดน้ำมันปาล์มต้นแบบเป็นระบบแห้งหีบรวม เป็นการพัฒนาของเครื่องสกัดน้ำมันปาล์มจากแบบเดิม ซึ่งเป็นการคิดค้นร่วมกันของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กับบริษัทเกษตรสิทธี จำกัด อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ซึ่งเครื่องสกัดน้ำมันปาล์มดังกล่าวเป็นระบบที่มีขนาดเล็ก ใช้งบลงทุนต่ำ และใช้ระบบเชื้อเพลิงจากเศษเหลือทะลายปาล์ม ไม่ก่อให้เกิดผลเสียจากกระบวนการผลิต มีกำลังการผลิต 2.5 ตัน/ชม. สามารถขยายกำลังการผลิตได้ 5 ตัน/ชม. และมีเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มที่หีบได้มากกว่า 22 % ขึ้นไป ทั้งนี้ระบบดังกล่าวสามารถรองรับผลผลิตจากสวนปาล์มน้ำมัน ตั้งแต่ขนาด 3,000 ไร่ขึ้นไป และสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดในกระบวนการผลิตพลังงานทดแทนไบโอดีเซลชุมชนได้อีกด้วย
ข้อมูลจาก :: วาสนา บัวทอง สวท. กระบี่
-----------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป