เมื่อถึงบริเวณเขตโครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าทุ่งทะเลฯ พบสภาพป่าเสม็ดสองข้างทางมีร่องรอยถูกไฟเผาไปจนถึงทางไปชายหาดทุ่งทะเลรวมระยะทางกว่า1 กิโลเมตร บริเวณป่าเสม็ดพบมีการกั้นรั้ว และนำต้นปาล์มน้ำมันอายุ 6 เดือน ถึง1 ปี ไปปลูกไว้ หลายจุดตลอดสองข้างทาง ห่างจากริมถนนลึกเข้าไปในป่าเสม็ดประมาณ 500เมตร ทะลุไปจนถึงหลังสำนักงานโครงการฯ รวมเนื้อที่ประมาณ 100-200 กว่าไร่
จากการสอบถามชาวบ้านที่ร้องเรียนแต่ขอปกปิดชื่อเพื่อความปลอดภัย ทราบว่า พื้นที่ดังกล่าว มีสภาพเป็นป่าเสม็ดที่มีความอุดมสมบูรณ์ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะกลาง ไม่เข้าหลักเกณฑ์มติครม.2541 ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ใดๆได้ รวมเนื้อที่ทั้งหมดกว่า 4,000 ไร่ ต่อมาได้แบ่งพื้นที่เป็นเขตป่าโครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าทุ่งทะเลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน100ไร่
ซึ่งมีสภาพเป็นป่าเสม็ดที่อุดมสมบูรณ์ เมื่อช่วงต้นปี53 เคยถูกลอบวางเพลิงจนได้รับความเสียหายกว่า 500 ไร่ และเมื่อประมาณ2-3วันที่ผ่านมาได้มีนายทุนซึ่งร่วมกับนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง ว่าจ้างชาวบ้านในเข้าไปบุกรุกโดยนำยาฆ่าตอราดใต้โคนต้นเสม็ดที่กำลังฟื้นตัวจากถูกไฟเผา เพื่อให้ยืนต้นตาย เป็นจำนวนมาก จากนั้นก็ตัดไม้เสม็ดบริเวณดังกล่าวมากั้นแบ่งพื้นที่กันหลายราย จากนั้นนำปาล์มน้ำมันและต้นมะพร้าวมาปลูกรวมเนื้อที่ถูกบุกรุกแล้วไม่ต่ำว้า100 ไร่
ชาวบ้านรายเดิมกล่าวอีกว่า ช่วงที่มีการบุกรุกส่วนใหญ่จะเป็นช่วงเช้าและช่วงเย็นของวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งช่วงนี้บริเวณชายหาดไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวเพราะเป็นช่วงมรสุม ประกอบกับเป็นช่วงเดือนถือศีลอดไม่มีนักท่องเที่ยวอยู่ตามชายหาด จึงทำให้ขบวนการบุกรุกป่าทำได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังได้ว่าจ้างชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปช่วยกั้นรั้วและปลูกปาล์มน้ำมันด้วย
ข้อมูล...Krabi United.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป