วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

กระบี่ สนธิกำลังทหาร ตำรวจ และป่าไม้ เข้ารื้อถอนปาล์ม ยาง

กระบี่ สนธิกำลังทหาร ตำรวจ และป่าไม้ เข้ารื้อถอนปาล์ม ยาง รุกป่าสงวนแห่งชาติป่าในช่องฝั่งตะวันตก พร้อมเตรียมดำเนินการตาม ม.25 รื้อถอนอีกเนื้อที่เกือบพันไร่


วันที่ 19 ส.ค.53 นายเผชิญ โมฬี ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ นายสุนทร เครือหลี ป้องกันจังหวัดกระบี่ นำกำลังทหารจาก ร.15 พัน 1 คลองท่อม อส.จังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 426 กระบี่ หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ กบ.1 เหนือคลอง หน่วยประสานงานป้องกันและรักษาป่าจังหวัดกระบี่ หรือ นปม.รวมกำลัง 100 นาย เข้าทำการรื้อถอนผลอาสินที่เพิ่งปลูกใหม่อายุไม่เกิน 1 ปี ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าในช่องฝั่งตะวันตก ถนนสาย 3 หมู่ที่ 1 ตำบลเขาคราม และหมู่ที่ 4 ตำบลเขาทอง อ.เมืองกระบี่ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่าป่าแก่ และอยู่ห่างจากที่ทำการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 ประมาณ 5 กิโลเมตร

หลังจากก่อนหน้านี้ ได้มีชาวบ้านร้องเรียนว่าบริเวณดังกล่าวมีการบุกรุกอย่างหนักทั้งจากเจ้าหน้าที่รัฐบางคนและชาวบ้าน ทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ จึงได้มีประกาศจังหวัดตามกฎหมายความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน.เพื่อสนธิกำลังรื้อถอนเป็นการดำเนินการขั้นเด็ดขาด

โดยเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบแปลงแรกซึ่งต้องผ่านแปลงสวนปาล์มน้ำมันขนาดใหญ่อายุประมาณ 4-5 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างการประกาศใช้มาตรา 25 ในการรื้อถอนซึ่งจะครบกำหนดประมาณปลายเดือนนี้ รวมเนื้อที่แปลงดังกล่าวประมาณ 50 ไร่ หลังจากนั้น ได้ผ่านปาล์มอายุประมาณ 1-2 ปี เนื้อที่หลายสิบไร่ และเข้าสู่ป่าใหญ่ เป็นป่าดิบมีพันธุ์ไม้ขนาดหลายคนโอบขึ้นหนาทึบ และก็มีการเข้าไปแผ้วถางแล้วบางส่วน และเมื่อเข้าไปลึกพบป่าขนาดใหญ่ แต่ได้มีการโค่นต้นไม้เช่น ต้นตะแบก ต้นหลุมพอ จนราบเกือบทั้งหมด และมีการตัดเป็นท่อนซุงไว้ แต่ไม่มีการแปรรูป

เจ้าหน้าที่คาดว่า ได้มีการโค่นต้นไม้ดังกล่าวประมาณ 1-2 ปี ทำให้มีต้นกล้วยป่าขึ้น และมีการแผ้วถางร่องในพื้นที่ดังกล่าวปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน และผลไม้ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการถอนผลอาสินทั้งหมดแยกเป็น ปาล์มน้ำมัน 294 ต้น ทุเรียน 21 ต้น ยางพารา 331 ต้น วัดพิกัดด้วยจีพีเอสพบมีเนื้อที่รวม 24 ไร่ 8 ตารางวา

จากนั้นได้ย้อนกลับมาที่แปลงที่ 2 ซึ่งเพิ่งเข้าตรวจยึดพื้นที่เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 53 เนื้อที่ 2 ไร่ 3 งาน 75 ตารางวา เข้ารื้อถอนปาล์มน้ำมันได้ 45 ต้น และพบว่าแปลงดังกล่าวมีการบากโคนต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ยืนต้นตายด้วย ส่วนแปลงที่อยู่ติดกันมีปาล์มน้ำมันอายุประมาณ 1-2 ปี เนื้อที่หลายสิบไร่เช่นกัน แต่ทางผู้เกี่ยวข้องแจ้งว่า ทางผู้ครอบครองได้มาติดต่อแจ้งว่าปลูกผลอาสินมาก่อนทั้งเงาะ และสะตอ ซึ่งจะรอการตรวจสอบด้วยระบบภาพถ่ายทางดาวเทียมต่อไป ส่วนอีกแปลงหนึ่งที่ติดกันเนื้อนับสิบไร่ มีการปลูกยางพาราอายุประมาณ 2 ปี เจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะเข้ามาตรวจยึดต่อไป

นายสุนทร เครือหลี ป้องกันจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ สั่งดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้บุกรุกป่า ซึ่งจากการลงพื้นที่ พบว่า ป่าแก่กำลังจะหมดแล้วและที่สำคัญเป็นต้นน้ำท่าปอมคลองสองน้ำ และจากการตรวจสอบก็ทราบว่า ผู้ที่เข้ามาบุกรุกนั้นมีทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ และชาวบ้านนายทุน ซึ่งเรื่องนี้จะเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เพื่อดำเนินการอย่างเด็ดขาด ส่วนปาล์มน้ำมันและยางพาราที่ปลูกในบริเวณนี้ทั้งหมด ได้แจ้งให้ทางผู้เกี่ยวข้องทราบแล้วว่า จะต้องมีการประกาศมาตรา 25 เพื่อทำการรื้อถอนทั้งหมด เพราะเป็นการบุกรุกใหม่ในห้วงระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา สำหรับบริเวณนี้ จากการตรวจสอบคาดว่ามีการบุกรุกรวมเนื้อที่แล้วนับพันไร่ การดำเนินการก็จะแยกเป็นคดีไป

ขอบคุณ...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป