วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553

กระบี่ พบก้อนหินพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์

ฮือฮา พบก้อนหินประหลาด มีรูปพระพุทธรูปขนาดเท่าฝ่ามืออยู่บนก้อนหิน เชื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อายุนับพันปี ขณะที่กรรมการหอศิลป์ ระบุ เกิดจากน้ำกัดเซาะเป็นเวลานานจนเกิดเป็นรูปร่าง

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 28 ก.ย.53 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ชาวบ้านเกาะกวาง หมู่ที่ 3 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ พบก้อนหินประหลาด มีพระพุทธรูปแกะสลักตรงกลาง สร้างความแปลกใจให้แก่ชาวบ้านที่พบเห็นเป็นอย่างมาก และมีชาวบ้านแห่กราบไหว้ไม่ขาดสาย จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายนิวัฒน์ วัฒนยมนาพร กรรมการสภาวัฒนธรรมอำเภอเมืองกระบี่ นายสุเทพ จันทระ กรรมการหอศิลป์ร่วมสมัย จ.กระบี่

เมื่อไปถึงทางเข้า เป็นเส้นทางถนนลูกรังกว้างประมาณ 2 เมตร เข้าไปในสวนยางของชาวบ้านกำลังปรับที่เพื่อปลูกยางพารา บริเวณริมเชิงเขา พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูก้อนหินขนาดใหญ่ หนักประมาณ 2 ตัน เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร ด้านบนก้อนหินมีรูปวงรีขนาดเท่าฝ่ามือคล้ายพระพุทธรูป บนก้อนหินมีร่องรอยแป้งฝุ่นและมีการจุดธุปเทียนบูชาตามความเชื่อของชาวบ้าน

นายสัมฤทธิ์ บุญชู อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201 ม.3 ต.หนองทะเล เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้รับทราบจากคนขับรถแบ็กโฮที่เข้ามาปรับพื้นที่บริเวณดังกล่าว ขณะที่เข้ามาปรับพื้นที่อยู่นั้นรถแบ็คโฮได้มีอาการสั่นอย่างแรง จึงลงจากรถมาดูพบก้อนหินขนาดใหญ่ ตรงกลางมีรูปคล้ายรูปแกะสลักพระพุทธรูปแปะอยู่บนก้อนหิน จึงได้นำธูปเทียนมาขอขมา และแจ้งให้นายสุขกาย จันทร์อ่อน นายยกอบต.หนองทะเล และ นายสมพร จันทร์อ่อน กำนันตำบลหนองทะเล ทราบ และเข้ามาตรวจสอบ

จากนั้นได้มีชาวบ้านที่ทราบข่าวแห่มุงดูกันไม่ขาดสาย และวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา เพราะเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดไม่มีใครพบเห็นมาก่อน และเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ด้าน นายสุเทพ จันทระ กรรมการหอศิลป์ร่วมสมัย จ.กระบี่ กล่าวว่า ลักษณะภาพที่ปรากฏบนก้อนหินเป็นรูปวงรีขนาดเท่าฝ่ามือ มีเส้นวงรีล้อมรอบ 3 ชั้น ส่วนตรงกลางเป็นรูปคล้ายหน้าพระ ซึ่งบางคนก็อาจะมองว่า เป็นพระพุทธรูปปางลีลาเม็ดขนุนบ้าง พระสมเด็จบ้าง แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน แต่ตนเห็นว่า รูปที่เกิดบนก้อนหินเกิดจากน้ำฝนกัดเซาะเป็นเวลานาน เพราะดูจากผิวก้อนหินบริเวณรอบๆ ถูกน้ำกัดเซาะในลักษะเดียวกัน จนเห็นหินชั้นที่ลึกลงไป แต่อย่างไรก็ตามต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง

ทางพระลูกวัดสำนักสงฆ์ คลองม่วง ม.2 ต.หนองทะเล กล่าวว่า สำหรับรูปพระพุทธรูป ที่พบบนก้อนหินเป็นพระพุทธรูปปางลีลา คาดว่า อายุไม่ต่ำกว่า 1 พันปี โดยคาดว่าอาจจะมีพระมาธุดงในป่าแห่งนี้ แล้วลืมพระพุทธรูปไว้บนก้อนหิน และเมื่อนานเข้าก็กลายเป็นเนื้อเดียวกับหิน แต่รูปร่างของพระพุทธรูปยังสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ซึ่งก็เป็นเพียงการสันนิษฐานเท่านั้น

ด้าน นายสุขกาย จันทร์อ่อน นายก อบต.หนองทะเล อ.เมือง กล่าวว่า ในพื้นที่ที่พบเป็นพื้นที่ของชาวมุสลิม ส่วนผู้นับถือศาสนาพุทธอาศัยอยู่น้อย ชาวบ้านที่เป็นชาวพุทธหมู่บ้านใกล้เคียง จึงลงความเห็นว่า ให้เคลื่อนย้ายก้อนหินดังกล่าวไปไว้ที่ สำนักสงฆ์บ้านคลองม่วง ม.2 ต.หนองทะเล เพื่อให้ชาวบ้านที่ศรัทธาไปกราบได้บูชา เพราะเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดหาดูยาก เป็นที่สนใจของชาวบ้าน ซึ่งก็ได้มอบให้สำนักสงฆ์นำไปเก็บไว้ต่อไปแล้ว ส่วนจะมีการทำอย่างไรต่อไปก็จะมีการพูดคุยกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกครั้ง

ข้อมูล...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป