วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2553

สั่งหยุดชั่วคราวโรงโม่หินเขาหน้าวังหมี หลังถูกชาวบ้านร้องเรียนหินตกใส่บ้าน

สั่งโรงโม่หินนายเหมือง เขาหน้าวังหมี เมืองกระบี่ หยุดระเบิดหินชั่วคราว พร้อมให้ทำแผนระเบิดหินใหม่ ไม่ให้กระทบประชาชน หลังถูกชาวบ้านร้องเรียน ผู้ว่าฯกระบี่หินตกใส่บ้าน

จากกรณีการระเบิดหินเขาหน้าวังหมี ม.2 ตำบลทับปริก อ.เมืองกระบี่ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมานานกว่า 3 ปี หลังจากมีการยื่นขอประทานบัตรระเบิดย่อยหินของบริษัท นายเหมือง จำกัด ซึ่งทางกรมศิลปากรได้เข้าสำรวจพบบริเวณถ้ำมีวัตถุโบราณทั้งโครงกระดูกและเครื่องใช้ต่างๆ อายุไม่ต่ำกว่า 2-5 พันปี แต่ทางกรมศิลปากรไม่ได้ขึ้นทะเบียนให้ชัดเจน นำมาสู่ข้ออ้างของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า ตามกฎหมายต้องขึ้นทะเบียน จึงจะสามารถยกเลิกการระเบิดหินได้ ส่งผลให้ยืดเยื้อมานาน ขณะที่ชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่ใกล้เคียง ได้รับผลกระทบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากมีหินตกใส่บ้านและบริเวณบ้านหลายครั้งจากการระเบิดหิน

ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 2 ธ.ค.53 นายอุเทน ตัณตรีบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย นายพุทธกร วิชัยดิษฐ รักษาการอุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ นายกฤษ์ พรหมศร นายฐานันดร ผลวงศ์ วิศวกรเหมืองแร่ สำนักอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต 4 ภูเก็ต ได้เดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบหินที่ตกใส่บ้านของนางสาคร สิทธิมนต์ เลขที่ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145 ม.3 ต.ทับปริก ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามภูเขาที่มีการระเบิด โดยพบหินขนาดเท่ากำปั้น 1 ก้อนพร้อมเศษหิน ที่หน้าบ้าน

โดย นางสาคร แจ้งว่า หินก้อนดังกล่าวตกใส่บ้านเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 53 จากนั้นได้เดินทางไปร้องเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เกิดขึ้นหลายครั้งแล้วด้วย

ต่อจากนั้น นายอุเทน พร้อมคณะ ได้เดินทางต่อไปสำรวจจุดที่มีการระเบิด และเข้าร่วมประชุมกับทางบริษัท หลังจากใช้เวลาประมาณ 1 ชม.นายอุเทน กล่าวว่า เบื้องต้นนี้ได้รับการสั่งการจากผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ให้ลงมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านต่อการระเบิดหินซึ่งมีเศษหินหล่นใส่บ้าน ซึ่งจะเป็นอันตรายได้ และจากการพูดคุยหารือกับทางบริษัท ได้ข้อสรุปว่า ให้ทางบริษัทหยุดระเบิดหินเป็นการชั่วคราว โดยให้ทางบริษัทร่างแผนการระเบิดใหม่ ไม่ให้กระทบต่อชาวบ้านข้างเคียง และให้เสนอมาให้จังหวัดตรวจสอบก่อนที่จะดำเนินการ ส่วนการขนย้ายหินเพื่อนำไปโม่ยังสามารถทำได้

ขณะที่ นายบุญฤกษ์ เต้บำรุง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ตำบลทับปริก อำเภอเมืองกระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้นอกจากประเด็นต่างๆ จากการตรวจสอบพบว่า หลังมีการระเบิดหินมาอย่างต่อเนื่อง ก็ส่งผลกระทบต่อถ้ำที่ทางกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ สั่งให้ปิดล้อมไว้ เพื่อรอการพิสูจน์เรื่องวัตถุโบราณ ซึ่งมีเศษหินหล่นลงมาปิดปากถ้ำจำนวนมาก ซึ่งเกรงจะเกิดผลกระทบต่อวัตถุโบราณที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงขอให้มีการแก้ไข ซึ่งในประเด็นนี้ ทางวิศวกรจากสำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ได้ให้ทางบริษัทระมัดระวังและให้นำเศษหินออกจากปากถ้ำ และห้ามคนงานหรือบุคคลใดๆ เข้าไปในจุดดังกล่าว ซึ่งทางบริษัทรับที่จะดำเนินการต่อแล้ว

ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป