เมื่อเวลา 11.00น.วันนี้ (11 ม.ค.54) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางหลงเสี้ย เล็กกุล อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162 ม.3 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ว่าได้รับความเดือดร้อนมาเป็นเวลา 3 ปีเต็ม หลังจากบ้านที่อาศัยอยู่ถูกน้ำท่วมเมื่อปี พ.ศ. 2550 ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และบ้านหลังใหม่ที่ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลไสไทยสร้างให้ใหม่ก็ยังไม่เสร็จ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนางหลงเสี้ย อาศัยอยู่กับหลานสาวและหลายชาย รวม 4 คน ภายในบ้านปูนชั้นเดียว โดยตัวบ้านมีรอยแตกร้าวทั้งหลัง บางจุดของบ้านมีการทรุดตัวใกล้พังเต็มที
นางหลงเสี้ย เล่าว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไปโดยอาศัยอยู่กับหลานรวม 4 คน แต่เมื่อปี 2550 ได้เกิดฝนตกหนักและมีน้ำไหลทะลักท่วมบ้าน จนทำให้บ้านทรุดพังเสียหายอย่างหนัก และในเบื้องต้นก็ได้รับการช่วยเหลือจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ เป็นเงิน 39,000 บาท เพื่อซ่อมแซมบ้าน แต่ก็ไม่สามารถที่ซ่อมได้ เนื่องจากอยู่ในที่ลุ่ม พื้นดินก็เริ่มทรุดตัวและยากแก่การซ่อมแซม ต้องรื้อทิ้งและสร้างใหม่อย่างเดียว เมื่อเห็นว่าเงินที่ได้รับการช่วยเหลือ ไม่พอซ่อมบ้านได้ ประกอบกับตนไม่มีรายได้อะไร จึงได้เอาเงินไปซื้อชุดนักเรียนให้หลานๆ ทั้ง3 คน และเครื่องใช้ที่จำเป็นในบ้าน นอกจากนี้บ้านที่อาศัยอยู่ใกล้พังแล้ว ไฟฟ้าและน้ำประปาก็ไม่มีด้วย
นางหลงเสี้ย กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ร้องขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานราชการต่างๆหลายแห่งทั้งระดับอำเภอ และจังหวัด จนกระทั่งเวลาผ่านไป 3 ปี และเมื่อประมาณ 4-5 เดือนที่ผ่านมา ทางองค์การบริหารส่วนตำบลไสไทย ก็ได้มาก่อสร้างบ้านหลังใหม่ให้ กว้างประมาณ 5-6 เมตร ยาวประมาณ 8-9 เมตร แต่สร้างได้เพียงแค่เสา และโครงหลังคา เท่านั้น ทาง อบต.ก็แจ้งว่างบประมาณหมด ให้รอไปก่อน ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ทาง อบต.จะมาสร้างให้เสร็จ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลืออย่างจริงจัง เพราะทุกวันนี้ ตนก็ไม่มีอาชีพที่แน่นอน
ด้านนายอาวุธ ไขแสง ปลัดอบต.ไสไทย กล่าวว่า หลังจากทางอบต.ได้รับทราบเรื่องการร้องเรียนของนางหลงเสี้ยแล้วก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เข้าไปดำเนินการช่วยเหลืออยู่ตลอด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เช่นเรื่องของข้าวสาร อาหารแห้งต่างๆ ก็นำไปมอบให้ไม่เคยขาดสาย นอกจากนี้ก็ได้ประสานไปยังจัดหางานจังหวัด ให้เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของอาชีพ ด้วย แต่นางหลงเสี้ยไม่สามารถออกจากบ้านไปทำงานที่ไกลๆได้เพราะต้องดูแลหลานๆ จึงได้ปลูกผักสวนครัวขายแทน ซึ่งเป็นความสมัครใจของนางหลงเสี้ยเอง
ปลัดอบต.ไสไทย กล่าวอีกว่า ในส่วนของบ้านที่ทางอบต.กำลังดำเนินการก่อสร้างให้ใหม่นั้นขณะ นี้ต้องหยุดไว้ชั่วคราว เนื่องจากงบประมาณที่ทาง อบต.ตั้งไว้ 1 แสนบาท ต่อบ้าน1 หลัง ไม่เพียงพอ เนื่องจากค่าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างมีราคาสูงกว่าเดิมมาก ดำเนินการได้เพียงสร้างพื้นบ้านและโครงหลังเท่านั้น ยังขาดงบประมาณอยู่อีกประมาณ 80,000 บาท จึงจะสามารถก่อแล้วเสร็จ ดังนั้นทางอบต.จึงต้องหางานเงินบริจาคจากภาคเอกชน และหน่วยงานต่างๆ มาสมทบ ซึ่งขณะนี้ได้มาประมาณ แล้วประมาณ 10,000 กว่าบาท ซึ่งทางนายกอบต.ไสไทย ได้กำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในวันที่ 9 มิถุนายน2554
ส่วนในเรื่องของน้ำประปานั้น ขณะนี้ทางอบต.ก็ได้จัดรถส่งน้ำให้อยู่ตลอด และประสานไปยังผู้ใหญ่บ้าน เพื่อดำเนินการในเรื่องของระบบน้ำประปา แต่ในส่วนของไฟฟ้านั้นก็ได้ให้นางหลงเสี้ยพ่วงไฟฟ้า จากบ้านที่กำลังก่อสร้างไปก่อน และเมื่อบ้านเสร็จแล้วก็จะดำเนินการติดตั้งระบบโซล่าร์เซล ให้ เนื่องจากบ้านอยู่ห่างจากเสาไฟฟ้ามาก การลงทุนปักเสาพาดสายจะต้องใช้เงินลงทุนสูง ขอเรีบนชี้แจงว่าทางอบต.ได้ดำเนินการช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่อาจจะไม่ทันใจผู้ร้องเรียน เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนมานาน
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป