เด็กนักเรียนโรงเรียนวัดเขาต่อ อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ รวมตัวประท้วงผู้อำนวยการโรงเรียนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม หลังย้ายมาเป็นผู้อำนวยการ 2 ปี ตัดต้นไม้ใหญ่ภายในโรงเรียนหลายสิบต้น ทำลายธรรมชาติ และลงโทษเด็กเกินกว่าเหตุ ด้านผู้อำนวยการโรงเรียน แจง การตัดต้นไม้เพื่อพัฒนาโรงเรียน ส่วนการลงโทษเด็กเป็นไปตามระเบียบ
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 20 มิ.ย.54 ที่โรงเรียนวัดเขาต่อ ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา และนักเรียนระดับประถม รวมตัวกันประท้วง นายสุเมศวร์ พรหมมินทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเขาต่อ กรณีตัดต้นไม้ภายในโรงเรียน โดยนักเรียนถือป้ายประท้วงเขียนข้อความต่างๆ ระบุว่า เอาต้นไม้ของโรงเรียนคืนมา และขอให้ย้ายผู้อำนวยการโรงเรียน แต่ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภ.ปลายพระยา และมีผู้ปกครอง รวมทั้งผู้นำท้องถิ่นเดินทางมาร่วมสังเกตการณ์
ขณะเดียวกัน ทางคณะกรรมการสถานศึกษา โรงเรียนวัดเขาต่อได้เดินทางมาหารือกับทางผู้อำนวยการ โดยเด็กนักเรียนที่ประท้วง กล่าวว่า การที่นักเรียนออกมาเรียกร้องในครั้งนี้ สืบเนื่องจากประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมา ทาง นายสุเมศวร์ ผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งย้ายมาทำหน้าที่ในโรงเรียนวัดเขาต่อ ได้มีการตัดต้นไม้ใหญ่ที่นักเรียนใช้เป็นที่พักผ่อน และทำกิจกรรมไปจำนวนมาก ทั้งต้นมะขาม ต้นการเวก และต้นตีนเป็ด ส่งผลให้ภายในโรงเรียนเหลือต้นไม้น้อยมาก นอกจากนั้น ยังมีแรงสะสมมาจากช่วงที่ผ่านมา เพราะผู้อำนวยการมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น ทำร้ายร่างกายนักเรียน รวมทั้งยังเก็บค่าเข้าค่ายพักแรมลูกเสือจากปกติที่ไม่มีการเก็บรายละ 350 บาท จากนักเรียนด้วย ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม
ด้าน นายสามารถ พลายชนะ อดีตประธานกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนวัดเขาต่อ กล่าวว่า ผู้อำนวยการคนนี้ที่ผ่านมา ได้มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการก่อสร้างต่างๆ ที่กรรมการสถานศึกษาได้แย้งในที่ประชุม แต่เมื่อมีการปฏิบัติกลับไม่ดำเนินการ รวมทั้งการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่ผ่านคณะกรรมการ ซึ่งอาจส่อไปในทางที่ไม่ถูกต้อง เคยร้องเรียนหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีการตรวจสอบให้ชัดเจน
ขณะที่ นายสุเมศวร์ พรหมมินทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเขาต่อ กล่าวว่า ตนเปิดให้ทุกภาคส่วนได้แสดงความคิดเห็น และพร้อมยอมรับ แต่สิ่งที่ทำไปนั้นก็เหมาะสม เป็นการพัฒนาปรับปรุง เช่น กรณีการตัดต้นไม้ บางจุดต้องการเดินสายไฟฟ้า 3 เฟส เข้าโรงเรียนก็ต้องตัดออกไป เพราะปัจจุบันยังใช้เสาไม้ไผ่
ส่วนต้นการเวกที่ตัดออกไป เพราะเดิมเป็นซุ้มสร้างด้วยไม้ก็ต้องรื้อ เพราะกลัวว่าไม้จะหล่นใส่ แต่ก็ใช้เหล็กและเสาปูนมาเป็นโครงซึ่งต้นไม้ก็รอการฟื้นตัวเลื้อยขึ้นไปได้เช่นเดิม ส่วนการลงโทษนักเรียนนั้นก็ทำไปตามปกติ หากนักเรียนไม่อยู่ในระเบียบ แต่เชื่อว่า ทุกเรื่อง สามารถชี้แจงได้ และขอให้พิจารณาว่าเรื่องนี้อาจมีเบื้องหลังอยู่ด้วย
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์
ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่เพียงแค่ว่าฟังความฝ่ายเดียวก็ตัดสินได้นะครับ มันต้องรู้ถึงเหตุเบื้องต้นเบื้องปลายของแต่เรื่องให้ชัดเจนก่อนแล้วจึงจะควรตัดสินนะครับ เช่นการลงโทษเด็กหากจะกล่าวหาว่าลงโทษเกินกว่าเหตุนั้น ก็ควรตรวจดูว่าเด็กเนี่ยทำผิดอะไร ถ้าหากทำผิดเล้กน้อยแล้วลงโทษรุนแรงก็ว่ากันไป แต่ถ้าหากว่าเด็กทำผิดจริงแล้วลงโทษเหมาะสม แต่เนื่องจากเด็กไม่พอใจเพราะความเห็นส่วนตัวจึงทำเช่นนี้ก็ควรยุติการกล่าวหาเหล่านี้เถอะครับ
ตอบลบ