วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ส.ส.สาคร เจอหลักฐาน ยันเขาหน้าวังหมี เป็นแหล่งโบราณสถาน เชื่อข้าราชการหมกเม็ดปกปิดข้อมูล พร้อมทำเรื่องให้กระจ่างหาคนผิดมาลงโทษ


นายสาคร เกี่ยวข้อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกระบี่ พรรค ปชป.ได้เปิดเผยว่า ตามที่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวมาตลอด เรื่องการสัมปทานระเบิดหินเขาหน้าวังหมี ม.2 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ และได้ทราบข้อมูลใหม่มาแล้ว รู้สึกผิดหวังกับหน่วยงานราชการมาก ที่ไม่ได้มีการกระทำ หรือจัดการให้เป็นไปตามกฎหมายเพื่อปกป้องประโยชน์ที่คนรุ่นหลังจะได้เก็บไว้ศึกษาเพื่อจะได้ทราบถึงความเป็นมาในวิถีชีวิตของบรรพบุรุษ ว่า ในครั้งโบราณได้มีวิถีชีวิตอย่างไรบ้าง มีวัตถุสิ่งใดบ้างที่ใช้ในการดำเนินชีวิต เป็นสิ่งที่น่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง และจาการที่ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนได้รับแต่คำร้องเรียนว่าชีวิตอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวอันตราย ทั้งหวาดกลัวในชีวิต หวาดกลัวในสุขภาพ เสียงระเบิดที่ดังได้สร้างความช้ำให้ชาวบ้านเป็นอย่างมากที่ดูเหมือนไม่มีหน่วยงานใดมาเหลียวแล

นายสาคร กล่าวด้วยว่า ข้อมูลที่ได้มาเป็นการแสดงถึงความชัดเจนว่า เขาหน้าวังหมี หมู่ที่ 2 ต.ทับปริก อ.เมือง เป็นแหล่งโบราณคดี ซึ่งเป็นการพิจารณาข้อมูลข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการการวิชาการเพื่อการอนุรักษ์โบราณสถาน ซึ่งเป็นการพิจารณาโดยผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า เป็นพื้นที่โบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ มีความสำคัญร่วมกับแหล่งอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงในเขตจังหวัดกระบี่ และในกลุ่มเทือกเขาหินปูนในเขตจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง จึงเป็นแหล่งโบราณสถาน เป็นหนังสือฉบับ ที่ วธ 0429/10 ลงวันที่ 6 มกราคม 2552 คนที่ลงนามคืออธิบดีกรมศิลปกร (นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต) ที่แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เพื่อได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่หน่วยงานราชการกลับอ้างมาตลอดว่าไม่เคยเห็นหนังสือ

“ความชัดเจนในหนังสือน่าที่จะดำเนินการได้แล้วแต่ก็ปล่อยให้เวลาผ่านมานับปี เสียงระเบิดก็ยังดัง หรือว่าทางหน่วยงานที่รับผิดชอบค่อยออกมาจัดการกับบุคคลที่กระทำความผิดในเวลาที่ความเป็นโบราณสถานหมดไปพร้อมกับเสียงระเบิด ผมแนะนำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ถ้าคุณคิดว่าโบราณสถานโบราณวัตถุไม่สำคัญใดๆ เลย ปล่อยให้ระเบิดดัง หินตกใส่ชาวบ้าน ได้รับบาดเจ็บก็ช่าง ตายก็ช่าง ผมในฐานะที่เป็นผู้แทนราษฎร ที่ได้รับความเดือดร้อน จะต้องมีคนรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ หรือใคร ผมคิดว่าในส่วนของเจ้าหน้าที่ก็หนักหน่อยเพราะมีกฎหมายบังคับให้ท่านปฎิบัติแต่ท่านไม่ปฏิบัติ ซึ่งเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ”

นายสาคร กล่าวด้วยว่า ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องให้ศาลเป็นผู้พิจารณาว่า เหตุการณ์ทั้งหมดควรหรือไม่ที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอยู่ และหากว่าใครจะกลับใจก็ยังทัน มาร่วมมือปกป้องประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและในอาทิตย์นี้ จะเข้าพบ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อชี้แจงปัญหาต่างๆ ให้รัฐมนตรีได้ทราบเพื่อหาทางดำเนินการต่อไป ซึ่งผมเชื่อมั่นว่า ท่านรัฐมนตรีเป็นนักกฎหมายจะเห็นด้วยกับผมที่กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย และว่าจะต้องมีเจ้าหน้าที่หรือข้าราชการคนหนึ่งคนใดในศาลากลางจังหวัดกระบี่ หมกเม็ดหนังสืออย่างแน่นอน ซึ่งตนจะทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง

ข้อมูลจาก..ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป