วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เรือประมงกระบี่หยุดออกทะเล70% สาเหตุต้นทุนสูง


นายมานิต ดำกุล นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวประมงพาณิชย์ในจังหวัดกระบี่ หยุดหาปลาแล้วประมาณ 70% สาเหตุมาจากอยู่ในช่วงปิดอ่าว เรือประมงต้องวิ่งออกไปไกลกว่าเดิมทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ทำให้ไม่คุ้มทุน เพราะเรือออก ซึ่งแต่ละครั้งต้องมีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท โดยเฉพาะค่าน้ำมัน

นอกจากนี้สภาพอากาศที่ไม่แน่นอน เกิดจากภาวการณ์เลี่ยนแปลงของโลก โดยเฉพาะภาวะโลกร้อน ทำให้น้ำทะเลมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ปลาและสัตว์น้ำจึงหลบไปฝังในโคลนดินใต้น้ำ ส่วนบนผิวน้ำจะไม่มีปลา เรือประมงพาณิชย์จึงจับปลาได้ยากขึ้นสำหรับปลาในหน้าดินนั้น ทราบว่า เรืออวนลากสามารถหาได้ดีเนื่องจากลักษณะเรืออวนลาก สามารถจับปลาใต้ผิวดินได้ดี

ส่วนเรือประมงพื้นบ้านก็ในปีนี้ก็หาปลาได้น้อยเช่นกัน เนื่องจากแมงกะพรุนในทะเลมีจำนวนมากเป็นอุปสรรคในการหาปลา เพราะแมงกะพรุนติดอวนทำให้อวนหนักจะต้องสลัดอวนทิ้งแมงกะพรุน ปลาก็ต้องทิ้งไปด้วย ดังนั้นช่วงนี้ราคาปลาในตลาดจึงปรับราคาสูงขึ้นด้วย เนื่องจากสัตว์น้ำหายากขึ้น

นายมานิต ดำกุล นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในส่วนของราคาปลาในท้องตลาดกระบี่นั้นมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็จะเป็นในช่วงระยะสั้นเพียง 1 เดือนเท่านั้น เช่นปลาทู ราคาปรับสูงขึ้นกิโลกรัมละ 40-50 บาท ปลากทูลัง 90-100 บาท หมึกหอม กิโลกรัมละ 100 บาท หมึกกล้วย กิโลกรัมละ 80-90 บาท ผู้บริโภคหากต้องการหลีกเหลี่ยงซื้อปลาที่มีราคาแพง ในช่วงประมาณเดือนมิถุนายนนี้ ผู้บริโภคก็สามารถที่เลือกซื้อกุ้ง หอย ปู แทนได้เนื่องจากมีราคาถูกกว่าเยอะ หากพ้นเดือนมิถุนายนราคาปลาก็จะปรับตัวลดลงตามปกติ

ข้อมูลจาก : Krabi United.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป